เดวิด มอยส์ ได้เผยว่าเขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เขารู้สึกว่ามันจริงจังมากกว่าที่เคยคุมทีมมา
ทีมปีศาจแดงถูกจับสลากอยู่กลุ่มเอร่วมกับชักซ์ตาร์ โดเน็ตสต์, เรอัล โซเซียดัด และไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยทีมหลังจะมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในคืนวันอังคารนี้ และมอยส์ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในรอบคัดเลือกรายการนี้กับเอฟเวอร์ตันมาแล้วในปี 2005 ก็ได้มองว่ามันจะเป็นงานที่ยากแน่นอน
“ผมตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่เข้ามาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใหม่ๆ แล้ว” เขาบอกกับนักข่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ “ทุกๆ เกมนั้นจะเป็นความท้าทายใหม่ๆ และมันก็จะยากเช่นกัน ผมเคยผ่านมันมาแล้วกับเอฟเวอร์ตัน เราทำได้ไม่ดีพอที่จะเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม แต่นี่มันแตกต่างออกไป นี่คือสโมสรที่มีความคุ้นเคยในการลงเตะรอบนี้เป็นอย่างดี”
“ผมคิดว่าทุกกลุ่มต่างก็หนักพอๆ กัน แต่ก่อนคุณอาจจะมองไปแล้วเลือกได้เลยว่าแต่ละกลุ่มจะมีใครผ่านเข้ารอบบ้าง แต่เดี๋ยวนี้มันยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว มันคาดเดาได้ยากกว่าที่เคย เราต้องพบกับทีมชั้นนำจากเยอรมัน จากสเปน แถมยังต้องเดินทางไปยังเมืองโดเน็ตสต์เพื่อเล่นกับชักซ์ตาร์อีก มันเป็นกลุ่มที่ไม่ง่ายเลย”
“ผมคิดว่านี่คือการแข่งขันที่ทุกคนต้องการที่จะทำผลงานให้ได้ดี บางทีมถึงกับพักนักเตะของพวกเขาในลีกเพื่อเก็บไว้ใช้งานในแชมเปี้ยนส์ ลีก เลยด้วย แต่มันก็ทำแบบนี้ได้ยากในพรีเมียร์ ลีก นี่เป็นการแข่งขันที่นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี และก็ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน”
เมื่อพูดถึงเรื่องของประสบการณ์ กุนซือชาวสก็อตก็ได้บอกว่าเขาไม่ใช่ผู้จัดการทีมคนใหม่เพียงคนเดียวในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ที่จริงแล้วทีมคู่แข่งของทีมในคืนวันอังคารก็มีอดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูลอย่าง ซามี่ ฮูเปีย ลงคุมทีมลงเตะระดับยุโรปเป็นครั้งแรกเช่นกัน
“คุณก็รู้ว่า ซามี่ ฮูเปีย เองก็ค่อนข้างใหม่กับตรงนี้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ? ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอก! ผมทำงานมานาน และก็ต้องการจะคุมทีมลงเตะในแชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่เสมอ ผมทำเท่าที่จะทำได้กับเอฟเวอร์ตันเพื่อให้มันเกิดขึ้น ตอนนี้ผมมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว ผมจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เราสามารถคว้าแชมป์มาครองได้”
ระหว่างการแถลงข่าวในครั้งนี้ มอยส์ยังถูกถามเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ต่อเรอัล มาดริด ในแบบที่มีการโต้แย้งกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย เขาเองก็ได้ไปชมแมตช์นั้น แต่แทนที่จะพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เขาก็อยากที่จะมีสมาธิกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า นั่นก็คือการลงเตะกับเลเวอร์คูเซ่นในคืนวันอังคาร
“ผมได้ไปดูเกมเมื่อปีที่แล้วที่เราเจอกับเรอัล มาดริด ด้วย บรรยากาศในยามค่ำคืนของแชมเปี้ยนส์ ลีก มันสุดยอด ตอนนี้นักเตะของเราต่างก็พร้อมกันอย่างเต็มที่แล้ว และเราจะออกไปทำผลงานกันให้ดีที่สุด”
SiR KeaNo